พบสมุนไพรไทย "คาวตอง" สุดเจ๋งมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษา การติดเชื้อ
ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ เตรียมศึกษาเชิงลึก
เพื่อพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เรื่องราวการค้นพบสมุนไพรไทย
มีสรรพคุณวิเศษในการยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำมาพัฒนาเป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
และมะเร็ง รวมถึงโรคเอดส์ได้นั้น ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม
ที่โรงแรมสยามซิตี ดร.ศุภชัย หล่อโลหการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.)
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวภายในการประชุมระดมความคิดเห็นเรื่อง
"การใช้นวัตกรรมเพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009" ว่า
สนช. มีนโยบายในการสนับสนุนภาคเอกชนในการวิจัย และพัฒนาพืชสมุนไพร
เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ
ล่าสุดได้มีการค้นพบสมุนไพรพื้นบ้านที่เรียกว่า "คาวตอง" หรือ "ภูคาว"
ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน พบมากทางภาคเหนือของประเทศไทย
ลักษณะ "คาวตอง" เป็นพืชล้มลุก และมีใบคล้ายใบพลู
กลิ่นค่อนข้างแรงเหมือนคาวปลา บางครั้งนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร
แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะมีกลิ่นแรง ไม่หอมเหมือนใบโหระพา
หรือใบกะเพรา ที่ผ่านมานักวิจัยต่างชาติได้ศึกษาสารสกัดของคาวตองพบว่า
มีคุณสมบัติต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้ดี อีกทั้ง
ยังมีความเป็นไปได้ในการยับยั้งเชื้อมะเร็ง และมีแนวโน้มที่จะต้าน
ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้
ซึ่งต้องมีข้อมูลทางวิชาการมารองรับ
ก่อนจะนำไปพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อไวรัสต่อไป คาดว่าใช้เวลาการวิจัย
และพัฒนาสกัดมาเป็นยารักษาโรคดังกล่าวได้อีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า
ขณะที่ทั่วโลกยังหวาดผวากับการแพร่ระบาดของโรค
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อ A/ H 1 N 1
เนื่องจากเชื้อหวัดนี้ยังคร่าชีวิตพลเมืองของนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ทำให้สถิติยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก
เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยล่าสุด (1 มิถุนายน) ไทยพบผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 4 คน
ซึ่งทางการไทยได้วิงวอนให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หากมีอาการป่วย
ควรไปให้แพทย์ตรวจอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเชื้อโรคระบาดในประเทศไทย
และเมนูอาหาร
กรมแพทย์แผนไทยแนะ สู้หวัดมีแกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ ยำปลาทู
นพ.นรา นาควัฒนานุกูล
อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
กล่าวว่า สมุนไพรที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคไข้หวัดมี หลายชนิด ได้แก่
กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ ขิง ข่า ตระไคร้และกะเพรา ฯลฯ
โดยเมนูที่แนะนำให้รับประทานช่วงนี้ มี แกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ ยำปลาทู
เพราะมีสมุนไพร ขิง หัวหอมมาก นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกกินกับผักต่างๆ อาทิ
คาวตองผักพื้นบ้านของภาคเหนือและอีสาน รวมถึงผลไม้ทุกชนิด
โดยเฉพาะชนิดที่มีรสเปรี้ยว ส้ม มะขามป้อม และฝรั่ง
"การดื่มน้ำสมุนไพร ทั้งน้ำฝรั่ง น้ำขิง น้ำมะขาม น้ำตระไคร้
ชาเห็ดหลินจือ เบญจขันธ์ ฯลฯ ซึ่งบางรายป่วยดื่มน้ำขิงแก่
โดยนำขิงแก่ไปต้มกับน้ำดื่มประมาณ 1-2 วันก็หาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาล
หรือหากมีไข้ในช่วง 1-2 วันแรกให้กินสมุนไพรดูแลอาการก่อนไปโรงพยาบาล อาทิ
ฟ้าทะลายโจร จันทลีลาแก้ปวดเมื่อย ยาเขียวหอม หากไอ ยาอมมะขามป้อม
มะแว้ง"นพ.นรา กล่าว
ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร
เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการช่วยสร้างภูมิต้านทานในการรักษาไข้หวัดใหญ่ ที่แนะนำ
3 ชนิดคือ
1.ฟ้าทะลายโจร
มีฤทธิ์ในการรักษาและสร้างภูมิต้านทานของร่างกายในการป้องกันโรค
2.ขิง มีฤทธิ์อุ่นสอดคล้องกับการรักษาโรคหวัด
ลดจำนวนไวรัสในร่างกาย
3.กระเทียม หรือกระเทียมดอง
ถ้าไม่อยากเป็นหวัดให้กินทุกวันประสิทธิภาพเหมือนกับวัคซีนป้องกันโรค
ส่วนกระเจี๊ยบ ขมิ้นอ้อย มะระ และฟักข้าว
ที่มีฤทธิ์เหมือนยาโอเซลทามิเวียร์
ด้าน ภญ.อัญชลี จูฑะพุทธิ รองผู้อำนวยสถาบันการแพทย์ไทย
กล่าวว่า การรับประทานฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาโรคหวัดควร
รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน ครั้งละไม่เกิน 1.5 กรัม วันละไม่เกิน 6
กรัม ถ้าแคปซูลที่มีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ก็รับประทานครั้งละไม่เกิน 3
แคปซูล หากเป็นขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) บรรจุ 375 มิลลิกรัม
ต้องรับประทานครั้งละ 5 แคปซูล
การรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้มีผลข้างเคียง คือ มือเท้าชา
อ่อนแรง บ้าง